วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2559

รวมเว็บไซต์ที่แจกรูปฟรีๆ ไม่มีลิขสิทธิ์


http://www.imcreator.com/free
https://stocksnap.io/
https://unsplash.com/
http://www.gratisography.com/
http://www.splitshire.com/
http://www.lifeofpix.com/
http://deathtothestockphoto.com/
https://picjumbo.com/
http://getrefe.tumblr.com/
https://pixabay.com/
http://raumrot.com/
http://www.pexels.com/
http://streetwill.co/
http://startupstockphotos.com/
http://magdeleine.co/
http://www.freeimages.com/      
                                                           http://jaymantri.com/                                                             
                                                                                   

มาดูการเขียนคิ้ว ฮาๆ ของน้องหมากัน


















ที่มา www.eatliver.com

ใบหน้าอันตลกของเจ้าตูบน้อย ที่กำลังจะงับบางอย่าง






















www.eatliver.com

ทวงหนี้เพื่อนผ่าน Facebook หรือ Line อย่างไรให้ไม่ผิดกฎหมาย



ปัญหาเรื่องหนี้สินและการทวงหนี้มีมาอย่างยาวนานก่อนสมัยพระเจ้าเหาเลยละมั้งนะครับ ต่อให้มีการทำสัญญากันว่าจะคืนวันนั้นวันนี้ ให้เพื่อนยืมตัง แต่ถ้าเพื่อนไม่คืน เราก็ต้องโทรถามตามยิกๆๆๆๆ บางทีทวงแล้วเขาไม่คืน ไม่รับสาย เกิดความแค้นใจ ประกาศด่าลูกหนี้กลาง Facebook และ Group Line กันเลยทีเดียว แต่นั่นเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องนะเธอว์ โดนเขาฟ้องรัวๆได้
ถ้าอยากจะทวงให้ถูกต้องผ่านทาง Facebook หรือ Line ก็ต้องทวงผ่านกล่องข้อความ Message หรือ Line ส่วนตัวนะครับ เพื่อนกัน… แหม ทำไมจะทวงกันไม่ได้ แต่อย่าไปพูดในที่สาธารณะเด็ดขาดเชียว
อย่างไรก็ตาม การทวงหนี้ก็มีกฎหมายข้อบังคับ โดยเราห้ามไปทวงหนี้ในลักษณะนี้นะครับ

1.การทวงหนี้ห้ามข่มขู่ว่าจะทำร้ายร่างกาย : ห้ามเชียว จะยิงทิ้ง จะเอาคนไปกระทืบ เดี๋ยวครอบครัวมรุงโดนแน่ การข่มขู่ในลักษณะนี้ผิดกฎหมายนะครับ ห้ามเชียว

2.ห้ามใช้คำพูดดูถูกลูกหนี้ : เขาไม่ใช้เงินก็อย่าไปว่าเขาว่า จนแล้วไม่เจียม มากู้ฉันทำไมถ้าไม่มีตังมาคืน อีจน! อย่าเชียว เดี๋ยวพูดแรงเกินไปติดลมแล้วจะกลายเป็นการหมื่นประมาท

3.ห้ามเปิดเผยความเป็นหนี้ให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องรู้ : เวลาใครเป็นหนี้ ก็ทวงกับคนนั้นนะครับ อย่าไป Add Facebook พ่อแม่เขาแล้วไป Post หน้า Wall หรือ Capture หน้าจอไปโพสตามเวปบอร์ดให้คนอื่นอ่านนะ

4.ห้ามติดต่อลูกหนี้ทางเอกสารเปิดผนึกที่ทำให้คนอื่นรู้ว่าเป็นการทวงหนี้ : ห้ามเชียวจดหมายไม่ปิดซองบอกรักความเป็นหนี้ หรือ Post Card ส่งไปทวงหนี้นะครับ

5.ห้ามใช้ข้อความเครื่องหมายสัญลักษณ์บนซองที่ทำให้เข้าใจว่าเป็นการทวงหนี้ : ส่งจดหมาย ให้เขาอ่านข้างในพอ ตรงซองห้ามแปะพวกคำว่า “ชำระหนี้ด่วน” เลยนะ

6.คนที่ทวงหนี้ห้ามแสดงตัวโดยให้คนอื่นเชื่อว่าหนังสือทวงหนี้ว่ามาจากศาลหรือจากหน่วยงานของรัฐ : ถ้าเราไม่ใช่ศาลก็อย่าไปใส่บนซองว่า “ศาล” หรือคำว่า “ราชการ” ใส่ความว่าศาลเดี๋ยวจะกลายเป็นละเมิดอำนาจศาลได้นะครับ

7.ห้ามทำให้คนอื่นเชื่อว่าเป็นทนายความหรือมาจากสำนักงานทนายความ : ปกติทนายความที่มีใบอนุญาตให้ว่าความสามารถออกหนังสือทวงถามได้ แต่ถ้าบางคนเนียนทำทีเป็นทนาย โดยไม่ได้เป็นทนายจริง ก็ไม่สามารถทำได้จ๊ะ อันนี้ก็ห้ามเหมือนกัน

8.ห้ามแสดงข้อความว่าจะยึด-อายัดทรัพย์หรือดำเนินคดี : ห้ามเชียวสำหรับพวกข้อความในซองจดหมายว่าจะยึดทรัพย์ จะอายัดทรัพย์ จะดำเนินคดีทันทีหรือฟ้องทันที ห้ามๆเลยครับ

9.ห้ามหลอกให้ลูกหนี้ให้เชื่อว่าจะติดเครดิตบูโร : บางทีทวงหนี้แบบโหด ฉันจะแจ้งเคริตบูโร เธอจะมีปัญหาแน่! อันนี้ห้ามนะจ๊ะ ไม่ดีๆ

ดูเหมือนจะมีกฎเกณฑ์มากมายเลยนะครับ อย่างไรก็ตามถ้าในมุมบุคคลธรรมดาอย่างเราๆก็แก้ปัญหาด้วยการไม่ให้คนอื่นยืมเงิน ให้ยืมเงินโดยเราไม่เดือดร้อน หรือยืมเงินโดยมีการทำสัญญากันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย การทวงหนี้ก็เช่นกันนะครับ ควรทวงดีๆ หากทวงแล้วไม่โอเคก็ดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายจะดีกว่า
ปรึกษาทนายความทีมงาน Finlawtech

ที่มา http://finlawtech.com/liability-social1/

ทักษะสุดสำคัญ 7 อย่าง ที่คุณสามารถ “เรียนรู้” ได้โดย “ไม่ต้องใช้เงิน” สักแดง












ทักษะเหล่านี้จะช่วยคุณในด้านการงาน และการพัฒนาคุณภาพชีวิต
ทักษะเหล่านี้นั้นเป็นสิ่งที่คุณสามารถเรียนรู้ได้ แม้จะไม่มีเงินติดตัวสักแดง

1. การพูดในที่สาธารณะ
Warren Buffett บอกว่า สิ่งสำคัญมากๆก็คือ การพัฒนาทักษะของตัวเองในด้านสื่อสารกับคนอื่น คนทั่วๆไปอาจไม่ได้มีโอกาสในการพัฒนาทักษะด้านนี้มากนัก แต่รู้หรือไม่ ว่าจริงๆแล้ว คุณสามารถไปยัง International Toastmasters Organisation ที่เป็นองค์กรที่จะช่วยเหลือให้คุณสามารถพัฒนาทักษะการพูดในที่สาธารณะได้

2. การเงินส่วนบุคคล
หลายคนไม่สามารถจัดการกับเงินและบัญชีส่วนตัวของตัวเองได้ หลักการง่ายๆก็คือ คุณควรใช้จ่ายได้น้อยกว่าที่ได้รับ หรือนี่เลย หนังสือที่มีชื่อว่า I Will Teach You How To Be Rich ของ Ramit Sethi หรือใช้แอพ Mint.com ที่จะช่วยคำนวณเงินและการใช้จ่ายเงินของคุณจากการซิ้งค์บัญชีเงินของคุณก็ได้ ใช้ไม่ยากด้วย

3. การลงทุน
เมื่อเริ่มจัดการรายรบรายจ่ายได้แล้ว ก็ถึงเวลาศึกษาด้านการลงทุนแล้วล่ะ นี่เลย ลองเข้าไปที่ Investopedia ที่จะมีข้อมูลการลงทุนต่างๆมากมายที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจของคุณ หรือ Wealthfront ก็เป็นอีกแหล่งการศึกษาข้อมูลการลงทุนที่น่าสนใจ

4. ภาษาต่างประเทศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคสมัยที่มีการสื่อสารติดต่อกันอย่างรวดเร็วและง่ายดายแบบปัจจุบัน แค่การรู้ภาษาต่างประเทศอาจช่วยเปลี่ยนชีวิตคุณไปได้ด้วยเช่นกัน ลองเข้าไปที่ Learn A Language Challenge ที่จะช่วยส่งคำศัพท์ภาษาเหล่านี้มาให้คุณทุกเช้า วันละ 10 คำ หรือถ้าคุณยุ่งเกินไป ลองแอพ Duolingo ที่เป็นเหมือนกับการเล่นเกมภาษา หรือถ้าอยากเรียนตัวต่อตัวก็ลองแอพ Rype ดูได้

5. Web/ Mobile Development
ไอเดียเยอะ แต่ไม่รู้จะสร้างมันอกมาอย่างไรหรือเปล่า    แทนที่จะเสียเงินเป็นแสนๆจ้าง Developer ให้สร้างสรรค์ผลงานออกมาให้คุณ ทำไมไม่ลองเรียนรู้และทำมันด้วยตัวเองดูล่ะ ลองเข้าไปที่ Codeacademy ดิ

6. การอ่านแบบรวดเร็ว
รู้ๆกันยู่แล้วว่าหนังสือเนี่ยเป็นแหล่งขุมทรัพย์ทางปัญญาชั้นดีเลย ปัญหาก็คือการอ่านหนังสือเนี่ยมันกินเวลาค่อนข้างนาน การพัฒนาทักษะการอ่านให้รวดเร็วและจับประเด็นสำคัญได้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญไม่เบาเลยทีเดียว  
ก่อนอื่นเลยต้องลองทดสอบระดับความเร็วในการอ่านของตัวเองเสียก่อน กลังจากนั้นอาจใช้แอพ Spreeder หรือ free courses ในการเพิ่มความเร็วในการอ่านดู

7. การทำสมาธิ
มีการพิสูจน์แล้วว่า การทำสมาธินั้นสอดคล้องกับระดับความสุขของเรา รวมถึงสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน คุณอาจลองโหลดแอพฟรีอย่าง Calm หรือ Headspace มาใช้ในการเริ่มต้นทำสมาธิอย่างง่ายดู
รู้แล้วก็อย่าลืมส่งต่ออะไรดีๆแบบนี้ไปให้เพื่อนๆด้วยนะ
ที่มา: LIFEHACKS & kiitdoo.com

วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2559

เรื่องเล่าขนหัวลุก ผีในมหาลัย 11 แห่ง กับตำนานเฮี้ยน ๆ

เรื่องผีในมหาวิทยาลัย 11 สถาบัน กับตำนานเฮี้ยนสยอง 

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก bangkokcombo

          เรื่องเล่าขนหัวลุก กับเรื่องผีในมหาวิทยาลัย 11 แห่ง ขึ้นชื่อชวนขนหัวลุก จากปากคำศิษย์เก่าศิษย์ใหม่ช่วยเล่าขาน ว่าแต่ตำนานผีในมหาวิทยาลัยไหนหลอนที่สุด ตามไปอ่านกันเลยค่ะ 

          ว่ากันว่าผีและวิญญาณล้วนมีแฝงตัวอยู่ทุกถิ่นที่ และหนึ่งในสถานที่ที่มีการเล่าขานตำนานผี ๆ มากที่สุดแห่งหนึ่งก็คือ "มหาวิทยาลัย" ซึ่งมีหลายมหาวิทยาลัยที่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงเรื่องราวลี้ลับชวนขนหัวลุกเล่าต่อกันมา และวันนี้กระปุกดอทคอมขอนำ เรื่องสยองขวัญในมหาวิทยาลัยไทย (อัพเดทใหม่) จาก คุณ SteeL14s สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ซึ่งคุณ SteeL14s ได้ตระเวนสัมภาษณ์จากปากคำบรรดาศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันของมหาวิทยาลัยนั้น ๆ มาโดยตรงเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ตำนานไหนเล่าต่อ ๆ กันมาในอินเทอร์เน็ตจนไม่รู้ก๊อบปี้ไปก๊อบปี้มากันกี่ต่อจะไม่ขอพูดถึง จึงรับประกันเรื่องราวจากบรรทัดนี้ไปคือความสยองขวัญที่เหล่าคนมีเซ้นส์ต่างช่วยเข้ามาคอนเฟิร์มแล้วว่า"ของเขาแรงจริง ๆ"

          อย่างไรก็ดี คุณ SteeL14s ได้ขออภัยไว้ล่วงหน้า หากว่าเรื่องราวหรือการกระทำใด ๆ ในคลิปวิดีโอชุดมหาวิทยาลัยสยองขวัญนี้ อาจทำให้ผู้ที่รักและผูกพันกับมหาวิทยาลัยไม่พอใจ ซึ่งที่คุณ SteeL14s เขียนเรื่องนี้ไม่ได้มีเจตนาทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงแต่อย่างไรทั้งสิ้น ถ้าคุณพร้อมแล้ว ก็เชิญไปรับฟังเรื่องเล่าสยองขวัญในรั้วมหาวิทยาลัยกันเลย

1. มหาวิทยาลัยรังสิต

          มหาวิทยาลัยรังสิต นับเป็นมหาวิทยาลัยที่เรียกได้ว่ามีผีเยอะที่สุดในกรุงเทพฯ และปริมณฑลก็ว่าได้ จากข้อมูลที่ผู้มีสัมผัสทางวิญญาณท่านหนึ่งได้เคยอธิบายเอาไว้ บริเวณเมืองเอก (ชื่อสถานที่ตั้งของมหาวิทยาลัยรังสิต) มีลักษณะพื้นที่เป็นแอ่งกระทะ นัยว่าไม่ดีตามหลักฮวงจุ้ย อีกทั้งยังเต็มไปด้วยบ้านถูกปล่อยทิ้งร้างไร้ผู้ดูแล (เช่นบ้านร้าง 9 หลัง และบ้านร้างบันไดแดงสุดโด่งดังของคนชอบลองของทั้งหลาย) ซึ่งผู้มีสัมผัสทางวิญญาณท่านนี้ก็ได้เล่าว่าบ้านร้างเหล่านี้เอง ที่จะเรียกพวกภูติ ผี สัมภเวสีเร่ร่อนมาอยู่อาศัย กลับมาเรื่องสยองของมหาวิทยาลัยรังสิตกันต่อ บอกได้เลย ว่าเยอะกว่าที่ไหน ๆ
          - ลิฟต์ตึก 3  

          ตึก 3 นับได้ว่าเป็นตึกที่เก่าที่สุดเป็นอันดับ 2 ของมหาวิทยาลัย ลิฟต์ที่ตึกตอนกลางวันจะใช้งานได้ปกติธรรมดา แต่ตกกลางคืน ลิฟต์จะเปิดเองเป็นประจำ (ถ้าจะบอกว่าลิฟต์มันเสีย ทำไมมาเจาะจงเสียเฉพาะตอนกลางคืนล่ะ ?) หากเรากดชั้นไหน มันจะไม่ค่อยยอมไปตามชั้นที่เรากด เช่น กดชั้น 6 ลิฟต์ดันจอดชั้น 5 (ซึ่งชั้น 5 เป็นชั้นของนิติศาสตร์ เคยมีคนเห็นผู้หญิงชุดขาวในกระจกข้างลิฟต์เป็นประจำ ทั้ง ๆ ที่ข้างลิฟต์ชั้นนั้นมันไม่มีกระจก !! ตัวเราก็เคยประสบกับตัวเช่นกัน ยืนรอเพื่อนอยู่ชั้น 5 ตรงริมทางเดิน สักพักก็ได้ยินเสียงคนเดินอยู่ที่ริมทางเดินของอีกฝั่ง พยายามไม่คิดอะไรบอกตัวเองว่าคงหูฝาด แต่เสียงเดินที่ว่ามันดันใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ทีนี้เลยไม่รอแล้วเพื่อน ขอลงก่อนโดยฉับพลัน)

          - ตึก 3 ห้อง 508 

          พี่ยามที่ตึกแกเล่าให้ฟังว่า วันดีคืนดี จะเห็นเครื่องเซ่นวางอยู่ในห้อง ไม่รู้ว่าใครเอามาวางไว้ และพอเช้า เครื่องเซ่นที่ว่าจะหายไปดื้อ ๆ โดยไร้สาเหตุ